โรคหลอดลมอักเสบอุดกั้นในเด็กมีลักษณะการหายใจดังเสียงฮืด ๆ ระหว่างการหายใจหายใจออกเป็นเวลานาน สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มการรักษาตรงเวลา ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องใช้วิธีฉีดเข้ากล้าม
โรคหลอดลมอักเสบอุดกั้นสามารถรับรู้ได้จากสัญญาณที่ปรากฏในวันที่ 1-2 ของ ARVI ในบรรดาสัญญาณที่เห็นได้ชัด เราสามารถแยกแยะความแตกต่างของการหายใจถี่ซึ่งมีเสียงดัง เมื่อหายใจออก การหายใจจะยาวขึ้น และได้ยินเสียงหายใจดังเสียงฮืด ๆ ในระยะไกล
หากทารกทนทุกข์ทรมานจากโรคหลอดลมอักเสบอุดกั้น สามารถสังเกตหายใจถี่โดยมีการหดตัวของบริเวณหน้าอกโดยเฉพาะ ซึ่งบ่งชี้ว่าหายใจลำบากด้วย อาการไอครอบงำซึ่งแสดงออกในรูปแบบของอาการชัก
รับมือกับโรคอย่างไร
หากมีอาการหลอดลมอักเสบอุดกั้นในระดับปานกลางและรุนแรงในทารกและผู้ที่อายุยังน้อย ให้ระบุการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับพวกเขา แพทย์จะกำหนดการตรวจและขั้นตอนที่อ่อนโยน ในกรณีเหล่านี้ มารดาของเด็กจะต้องอยู่ด้วยในระหว่างการรักษา
สิ่งสำคัญคือต้องให้อากาศบริสุทธิ์ซึ่งสามารถรวมเข้ากับการระบายอากาศบ่อยครั้งในห้องที่เด็กอยู่ โภชนาการควรอยู่ในรูปของอาหารทางสรีรวิทยาซึ่งควรคำนึงถึงอายุของเด็กด้วย มีความจำเป็นต้องจัดให้มีระบบการปกครองน้ำโดยคำนึงถึงความต้องการอายุของเด็ก เมื่อให้ความสำคัญกับปริมาณที่รับประทานแล้วจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของเหลวที่บริโภค 1.5 เท่า ของเหลวที่แนะนำ ได้แก่ ชา น้ำต้มผลไม้ น้ำผักและผลไม้
การรักษาด้วยยา
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการตรวจเลือดก็จะไม่ได้กำหนดยาปฏิชีวนะ การไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวข้องกับกระแสแบคทีเรียที่อักเสบ การรักษาชั้นนำสำหรับโรคหลอดลมอักเสบอุดกั้นคือการกำจัดการอุดตันของหลอดลม นี่แสดงถึงการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา beta2-adrenergic ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นบวกในเวลาอันสั้นในกรณีส่วนใหญ่ การอุดตันที่ไม่รุนแรงสามารถรักษาได้ด้วย salbutamol ในช่องปาก (1 มก. ต่อยา) ในเด็กอายุ 2 ถึง 4 เดือน เด็กอายุ 2 ถึง 3 ปีควรรับประทานครั้งละ 2 มก. ตลอดทั้งวัน
กระบวนการรักษาโรคหลอดลมอักเสบอุดกั้นในเด็กอาจเรียกได้ว่าลำบาก นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าเด็กจะต้องได้รับยาที่ไม่พึงประสงค์และหากโรคดำเนินไปอย่างรวดเร็วจะต้องได้รับการฉีดเข้ากล้าม ในบรรดายาหลักสำหรับโรคนี้ยาปฏิชีวนะสามารถสังเกตได้ เพื่อบรรเทาอาการหายใจดังเสียงฮืด ๆ ควรใช้สารทำให้ผอมบางเช่นการสูดดม