โรคภูมิแพ้คือการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการสัมผัสกับสาร (สารก่อภูมิแพ้) ส่วนใหญ่แล้ว เด็กมักประสบกับสิ่งที่เรียกว่า แพ้อาหาร ซึ่งเกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อการบริโภคอาหารบางชนิด และการแพ้ที่สัมผัสได้ ซึ่งเกิดขึ้นจากฝุ่นละออง ขนสัตว์ ละอองเกสร และสารอื่นๆ บนผิวหนังหรือในทางเดินหายใจ ทางเดินของเด็ก
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
อาการที่พบบ่อยที่สุดของการแพ้อาหารและการสัมผัสคือความเสียหายต่อผิวหนังของเด็ก บนใบหน้าแขนขาและคอของทารกมีผื่นสีชมพูสดใสในรูปแบบของแผลพุพอง ในบางกรณี ตุ่มน้ำเหล่านี้เริ่มเปียกและคัน ทำให้ทารกรู้สึกไม่สบายอย่างรุนแรง เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในร่างกายเป็นเวลานาน อาการบวมน้ำของ Quincke อาจพัฒนาได้ ดูเหมือนบริเวณที่มีการแปลของผิวหนังสีแดงหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ผื่นผิวหนัง (diathesis) และ angioedema มักเกี่ยวข้องกับการใช้อาหาร เช่น นม ปลา ปู พืชตระกูลถั่ว ถั่ว ไข่ ผลไม้รสเปรี้ยว หรือเกิดขึ้นเมื่อเด็กสัมผัสกับแมลง
ขั้นตอนที่ 2
กลุ่มอาการภูมิแพ้ในช่องปากเป็นอีกอาการหนึ่งที่พบได้บ่อยของการแพ้ เป็นลักษณะความเสียหายต่อเยื่อเมือกของคอหอยปากลิ้นและมีอาการคันบวมที่ริมฝีปากและเพดานปาก อาการเหล่านี้มักเริ่มไม่กี่นาทีหลังจากสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องและไม่นาน
ขั้นตอนที่ 3
ระบบทางเดินหายใจมักประสบกับสารก่อภูมิแพ้ ปฏิกิริยาการแพ้ต่อระบบทางเดินหายใจของร่างกาย ได้แก่ โรคจมูกอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ไข้ละอองฟาง โรคกล่องเสียงอักเสบ และโรคหอบหืด โดยปกติ ปฏิกิริยาเหล่านี้เกิดขึ้นจากการแพ้สัมผัส แต่อาหารบางชนิดอาจทำให้หายใจลำบาก (เช่น ถั่วลิสงหรือเฮเซลนัท)
ขั้นตอนที่ 4
การแพ้อาหารในเด็กเล็กมักมาพร้อมกับปฏิกิริยาเชิงลบจากกระเพาะอาหารและลำไส้ ผลิตภัณฑ์บางชนิด (นม ไข่ ถั่ว) อาจทำให้เกิดลำไส้อักเสบและต่อมลูกหมากอักเสบในทารกได้ หลังนี้พบได้บ่อยในเด็กในช่วงเดือนแรกของชีวิตและแสดงออกโดยการปรากฏตัวของเลือดในอุจจาระผสมกับสุขภาพที่ดี ความอยากอาหารและการเพิ่มของน้ำหนักปกติ
ขั้นตอนที่ 5
อาการภูมิแพ้ที่รุนแรงที่สุดและโชคดีที่สุดคือปฏิกิริยาทางระบบ - ภูมิแพ้ มันมาพร้อมกับกล่องเสียงบวมน้ำ, ลมพิษ, ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว, หายใจถี่และหมดสติ ส่วนใหญ่แล้ว anaphylactic shock เกิดจากแมลงกัดต่อย การใช้ยาหรือวัคซีน และผลิตภัณฑ์อาหารบางชนิด (อาหารทะเล นมวัว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง)