ในยุคปัจจุบัน เด็กก่อนวัยเรียนจำนวนมากมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เฉพาะการดำเนินการตามชุดของมาตรการที่มุ่งฟื้นฟูภูมิคุ้มกันอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นที่สามารถทำให้ทารกแข็งแรงและแข็งแรง กระบวนการนี้ค่อนข้างยาว ดังนั้นคุณต้องอดทนและเริ่มต้น
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ประการแรก พาเด็กที่ป่วยบ่อยไปปรึกษากับแพทย์ที่สามารถระบุสาเหตุของภูมิคุ้มกันที่ลดลงได้ ในการทำเช่นนี้ เขาจะนำคุณไปสู่การทดสอบและการตรวจที่จำเป็นโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: โสตศอนาสิกแพทย์ ทันตแพทย์ แพทย์ทางเดินอาหาร และนักภูมิคุ้มกันวิทยา
ขั้นตอนที่ 2
จากนั้นคุณต้องทำให้ลำไส้ของทารกเป็นปกติ ในทารกที่มีสุขภาพดี มีเซลล์ภูมิคุ้มกันในลำไส้ที่ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกัน
เพื่อให้ลำไส้ของเด็กทำงานได้ตามปกติ ให้ป้อนผลิตภัณฑ์นมหมัก อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ลงในอาหารของเขา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณดื่มน้ำปริมาณมาก หากทารกมีอาการ dysbiosis แพทย์จะสั่งยาที่เหมาะสมเพื่อชดเชยแบคทีเรียที่หายไป
ยาต้มข้าวโอ๊ตซึ่งคุณสามารถปรุงที่บ้านมีผลดีต่อการทำงานของลำไส้ ในการทำเช่นนี้ให้ใช้ข้าวโอ๊ตที่ไม่ได้ปอกเปลือก 100 กรัมล้างแล้วเทน้ำบริสุทธิ์ 1.5 ลิตรเป็นเวลา 10-12 ชั่วโมงจากนั้นต้มบนไฟอ่อน ๆ เป็นเวลา 1.5 ชั่วโมงเย็นและเครียด เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ขวบควรได้รับน้ำซุป 1 ช้อนชาตั้งแต่ 1 ถึง 2 ขวบ - 1 ช้อนโต๊ะตั้งแต่ 2 ปีถึง 5 ปี - 2 ช้อนโต๊ะหลังจาก 5 ปี - ครึ่งแก้วต่อวัน อายุการเก็บรักษาของน้ำซุปนี้คือ 1 เคาะในตู้เย็น
ขั้นตอนที่ 3
เพื่อฟื้นฟูภูมิคุ้มกันของเด็กอย่าลืมทบทวนอาหารของเขา รวมอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (กรดแอสคอร์บิก วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ซีลีเนียม ทองแดง และอื่นๆ อีกสองสามชนิด) อาจเป็นซีเรียล ผัก ผลไม้ ถั่ว น้ำมันพืช
ขั้นตอนที่ 4
อย่าลืมว่าเพื่อให้ลูกน้อยของคุณเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพแข็งแรง เขาต้องออกกำลังกาย ดังนั้นตั้งแต่แรกเกิดให้นวดลูกและยิมนาสติกอย่างเป็นระบบ พอโตมาก็สอนออกกำลังกาย นอกจากนี้ พยายามใช้เวลาอยู่กับลูกน้อยในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์มากขึ้น เกมว่ายน้ำและกลางแจ้งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ขั้นตอนที่ 5
การฟื้นฟูภูมิคุ้มกันยังอำนวยความสะดวกด้วยการบริโภคยาสมุนไพร ตัวอย่างเช่น tinctures ของ Echinacea purpurea, Eleutherococcus, Rhodiola rosea, Schisandra chinensis เป็นต้น แพทย์สามารถช่วยคุณตัดสินใจเลือกยาได้