คุณเคยสังเกตไหมว่าเด็กแตกต่างกันอย่างไร? ในครอบครัวหนึ่งอาจมีทั้งเด็กที่ไร้การควบคุม กล้าหาญและตรงไปตรงมา และเด็กที่สงบ ขี้ขลาดเล็กน้อยและอ่อนไหว แต่แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าควรปล่อยให้ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่เป็นอยู่เพราะกระบวนการศึกษาควรมีอยู่ตลอดชีวิตของบุคคลและความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องนี้อยู่ที่พ่อแม่
ผลของการอบรมเลี้ยงดูของผู้ปกครองควรเป็นการเห็นคุณค่าในตนเองที่เพียงพอของตัวเด็กเอง หากเป็นเช่นนี้ ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในชีวิตวัยผู้ใหญ่ของเด็กจะถูกรับรู้โดยเขาโดยไม่เจ็บปวด ความโศกเศร้าและความผิดหวัง
เป็นเรื่องน่าทึ่งที่การเลี้ยงดูบุคลิกภาพมาจากครรภ์มารดา ในเวลานี้ หน้าที่ของพ่อแม่คือต้องปฏิบัติต่อทุกอย่างอย่างใจเย็น อดทน และอดทน เพราะในช่วงเก้าเดือนของการตั้งครรภ์นั้น ความมั่นคงทางอารมณ์ ความไว้วางใจ ความลับ ความระมัดระวัง ความประหม่า ความมั่นใจในตนเอง และลักษณะนิสัยที่คล้ายคลึงกันอีกมากมาย ลูกในท้อง …
ลักษณะนิสัยเหล่านี้ทั้งหมดควรนำมาผสมผสานและกลมกลืนกัน และความสามัคคีนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะทางอารมณ์ของผู้ปกครองในระหว่างตั้งครรภ์ อาจกล่าวได้ว่านี่คือรากฐานของบุคลิกภาพ
ดังนั้นทารกจึงถือกำเนิดขึ้นซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจและใหม่มากมายสำหรับเขา แต่ถึงกระนั้นการพัฒนาบุคลิกภาพยังไม่จบเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นที่ผ่านไป ในช่วงปีแรกของชีวิต เด็กยังคงสร้างลักษณะนิสัยส่วนตัว ซึ่งเป็นรากฐานที่วางไว้ในระหว่างตั้งครรภ์ และในช่วงปีแรกของชีวิต สิ่งสำคัญสำหรับเด็กคือพ่อแม่ที่สนิทสนมกัน นี่เป็นขั้นตอนที่สองของการสร้างบุคลิกภาพ
จำเป็นที่ทั้งพ่อและแม่จะอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนให้บ่อยที่สุด กอดเขา จูบเขา และแสดงความรักต่อเขาในทุกวิถีทาง แต่ความรู้สึกทั้งหมดเหล่านี้ควร "ให้" กับลูกก็ต่อเมื่อพ่อแม่เองก็อารมณ์ดีเท่านั้น ถ้าอารมณ์ "ต่ำกว่าศูนย์" คุณไม่ควรเข้าไปในเรือนเพาะชำเลย ทั้งอารมณ์ที่ดีและไม่ดีนั้นถ่ายทอดไปยังเด็กได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และถ้ามันเป็นลบ เด็กก็จะเติบโตขึ้นอย่างหงุดหงิดและโกรธเคือง