วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก

สารบัญ:

วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก
วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก

วีดีโอ: วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก

วีดีโอ: วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก
วีดีโอ: Live : TNN ข่าวดึก วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 2024, อาจ
Anonim

ปีใหม่เป็นวันหยุดมหัศจรรย์ในวัยเด็ก เด็กๆ มักจะตั้งตารอ ฝันถึงของขวัญและเชื่อในปาฏิหาริย์ และผู้ใหญ่สามารถมอบเทพนิยายปีใหม่ให้กับลูกได้!

วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก
วิธีใช้เวลาปีใหม่กับลูก

คำแนะนำ

ขั้นตอนที่ 1

เพื่อให้ลูกน้อยของคุณมีวันหยุดอย่างแท้จริง คุณไม่ควรเชิญเพื่อนหรือญาติห่าง ๆ ของคุณ เด็กจะรู้สึกไม่จำเป็นและฟุ่มเฟือยใน บริษัท ที่มีเสียงดังของแขกขี้เมาซึ่งจะบอกใบ้อย่างชัดเจนว่าถึงเวลาที่ลูกน้อยของคุณจะนอนหลับ เพื่อที่เด็กจะได้ไม่เบื่อเมื่อต้องอยู่นอกบ้าน ควรให้ความสนใจเขาและใช้วันหยุดนี้กับครอบครัว

ขั้นตอนที่ 2

สร้างบรรยากาศรื่นเริงกับลูกของคุณที่บ้าน เป็นการดีที่สุดถ้าคุณจัดหาไม้สนสดหรือไม้สน ให้ลูกน้อยจดจำกลิ่นของเข็มสด ตกแต่งต้นคริสต์มาสกับลูกของคุณ ห่อวอลนัทด้วยกระดาษฟอยล์สีทองและสีเงิน เก็บมาลัยลูกปัดขนาดใหญ่ ทำของเล่นจากกระดาษสี รับซื้อเชิงเทียนรูปทรงบ้าน เด็กๆ ชอบดูหน้าต่างที่แสงเทียนมองเห็นได้ชัดเจนมาก

ขั้นตอนที่ 3

ทำการ์ดคริสต์มาสสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวกับลูกของคุณ ปล่อยให้ลูกตัวเองแสดงความยินดีกับพ่อปู่ย่าตายายน้องสาวและพี่ชาย คุณสามารถแนบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับการ์ดซึ่งเด็กสามารถเลือกได้ในร้านด้วยความช่วยเหลือของคุณ ในวันส่งท้ายปีเก่า หลังจากที่เสียงระฆังดังขึ้น ให้เด็กนำเสนอการ์ดด้วยความประหลาดใจให้สมาชิกในครอบครัวแต่ละคน

ขั้นตอนที่ 4

นึกถึงชุดปีใหม่สำหรับลูกน้อยของคุณ ไม่ควรร้อนและเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว คุณสามารถซื้อชุดคาร์นิวัลสำเร็จรูปในร้านขายของเด็กหรือทำเองก็ได้ ตัวอย่างเช่น สำหรับเด็กผู้หญิง คุณสามารถปักชุดเดรสด้วยลูกปัด ตกแต่งด้วยดิ้น ติดเกล็ดหิมะที่ตัดจากกระดาษ และจากกระดาษแข็งหนาเพื่อทำมงกุฎหรือหน้ากากปลอม

ขั้นตอนที่ 5

มากับสถานการณ์ปีใหม่ เพราะการนั่งดูทีวีไม่น่าจะทำให้ทารกมีความสุขได้ ให้บุตรหลานของคุณแสดงภาพร่างเล็ก ๆ หรืออ่านบทกวีวันหยุด คุณสามารถจัดการแข่งขันที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะเข้าร่วม

ขั้นตอนที่ 6

อย่าทำให้ลูกของคุณนอนกับความปรารถนาของพวกเขา วันส่งท้ายปีเก่าเกิดขึ้นปีละครั้ง และไม่มีอะไรผิดปกติที่ทารกจะเข้านอนหลังเที่ยงคืน นอกจากนี้การนอนฟังเสียงดอกไม้ไฟ เสียงหัวเราะ และดนตรีก็ค่อนข้างยาก ดังนั้นรอจนกว่าตัวเด็กเองจะอยากนอนแล้วพาเข้าห้องนอน