โรคฟันผุเป็นอาการทั่วไปที่ส่งผลต่อฟันน้ำนม น่าเสียดายที่พ่อแม่บางคนไม่เข้าใจว่าแม้กระทั่งฟันน้ำนมก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ฟันผุเป็นโรคที่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อฟันที่แข็งมาก สาเหตุคือจุลินทรีย์ที่มักยังคงอยู่ในช่องปากหลังเกิดโรคต่างๆ ฟันน้ำนมมีความเสี่ยงต่อจุลินทรีย์เหล่านี้มาก ในกรณีนี้ ฟันผุจะค่อยๆ พัฒนาไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ในเวลาอันสั้น การติดเชื้อหรือการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในอดีตสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคได้
ขั้นตอนที่ 2
ด้วยการไปพบแพทย์ทันเวลา ฟันที่ได้รับผลกระทบจากโรคฟันผุสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากจุดโฟกัสของการติดเชื้อเป็นวงกว้างและปรากฏเป็นเวลานานแล้วฟันจะถูกลบออก บ่อยครั้ง ผู้ปกครองเชื่อว่าเนื่องจากฟันน้ำนมหลุดออกมาเอง จึงไม่จำเป็นต้องรักษาโรคฟันผุ นี่เป็นความเครียดที่ไม่จำเป็นสำหรับเด็กที่มักกลัวหมอฟัน และไม่มีเวลาและแม้แต่เงินในการไปพบแพทย์เสมอไป
ขั้นตอนที่ 3
อย่างไรก็ตาม ควรเข้าใจว่าโรคฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาเป็นจุดสนใจของการติดเชื้อในปากของเด็กอย่างต่อเนื่อง เธอสามารถทำให้ตัวเองรู้สึกได้ตลอดเวลาที่มีไข้, ปวด, เบื่ออาหาร, เสื่อมสภาพในสภาพทั่วไป บริเวณที่ติดเชื้อสามารถเคลื่อนไปที่บริเวณช่องหูซึ่งทำให้เกิดการอักเสบได้
ขั้นตอนที่ 4
ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือถ้าคุณไม่รักษาฟันน้ำนมฟันผุ ก็จะต้องถูกกำจัดออกไปเมื่อเวลาผ่านไป เพราะความเจ็บปวดจะไม่ยอมให้ทารกอยู่อย่างสงบสุข ส่งผลให้อายุการใช้งานของฟันน้ำนมลดลงและช่องว่างชั่วคราวจะปรากฏขึ้นแทน และสิ่งนี้สามารถนำไปสู่การก่อตัวของการกัดที่ไม่ถูกต้องในเด็กเพราะเป็นการกัดนมที่กำหนดโครงสร้างที่ถูกต้องในอนาคตของกรามการพัฒนาที่ถูกต้องของการเคี้ยวและกล้ามเนื้อใบหน้าการเติบโตของลิ้น และสภาพในอนาคตของระบบทางเดินหายใจและการย่อยอาหารจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้
ขั้นตอนที่ 5
ควรเข้าใจว่าภายใต้ฟันน้ำนม ฟันกรามอาจเริ่มพัฒนาแล้ว และการติดเชื้อภายใต้สถานการณ์บางอย่างจะเข้าครอบงำเขา ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดฟันกรามผุในวัยเด็ก
ขั้นตอนที่ 6
ดังนั้นจุดสำคัญคือการป้องกันฟันผุในฟันน้ำนมอย่างแม่นยำ ทันทีที่ปรากฏ คุณต้องเริ่มดูแลพวกเขาทันที ทำความสะอาดฟันทุกวันด้วยน้ำต้มหรือยาต้มจากดอกคาโมไมล์แล้วใช้ยาสีฟันที่เหมาะสมกับวัย เพื่อให้ฟันแข็งแรงยาวนานขึ้น ควรจำกัดหรือกำจัดน้ำตาลที่กลั่นออกจากอาหารของเด็กให้หมด และแน่นอนว่าอย่าลืมไปพบทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง