บ่อยครั้งมากที่เตียงเด็กได้รับการถ่ายทอดมา และบ่อยครั้งที่แม่ให้ลูกเข้านอนในเปลเดียวกับที่เธอพักเมื่อยังเป็นทารก น่าเสียดายที่ทิ้งสิ่งเหล่านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้และทำจากคุณภาพสูงมาก
มันจำเป็น
- - ที่นอนใหม่
- - กระดาษทราย
- - แปรงแข็ง
- - ไพรเมอร์;
- - สีที่เหมาะสมสำหรับการรักษาเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก
- - ผ้าเช็ดปากและกาวสำหรับเดคูพาจ
- - อุปกรณ์การเผาไหม้
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ตรวจสอบเปลอย่างระมัดระวังตรวจสอบสภาพของชิ้นส่วนทั้งหมด คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนที่นอนเป็นที่นอนรุ่นใหม่ที่จะช่วยให้ลูกของคุณเติบโตอย่างถูกต้องและไม่ทำให้กระดูกสันหลังผิดรูป อย่าทิ้งที่นอนผ้าฝ้ายหรือโฟมเก่าๆ
ขั้นตอนที่ 2
ยังต้องเปลี่ยนล้อเปลเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ช่วยให้คุณย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปยังตำแหน่งที่จะสะดวกสำหรับคุณที่จะวางทารกได้อย่างรวดเร็ว
ขั้นตอนที่ 3
ถอดแยกชิ้นส่วนอย่างระมัดระวัง หากส่วนใดส่วนหนึ่งของเปลที่เป็นไม้ชำรุดหรือเสียหายอย่างรุนแรง ให้วางแยกส่วนและสั่งจากร้านช่างไม้
ขั้นตอนที่ 4
ลอกผิวเคลือบเก่าออกด้วยน้ำยาล้างพิเศษหรือกระดาษทรายหยาบ นำเศษขยะออกจากพื้นที่ทำงานและปิดด้วยกระดาษทรายละเอียด ใช้แปรงแข็งปัดฝุ่นออกจากไม้ที่ผ่านการบำบัดแล้ว
ขั้นตอนที่ 5
ปูเตียงเด็กด้วยไพรเมอร์พิเศษที่จะปกป้องไม้และช่วยให้พื้นผิวใหม่เข้ารูปมากขึ้น เลือกสีสำหรับใช้ในร่มเท่านั้นและเหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก มีการเคลือบพื้นผิวตามน้ำยางอะคริลิก ซึ่งเหมาะสำหรับการบูรณะเปล ใช้สีด้วยแปรงสังเคราะห์หรือลูกกลิ้งขนาดเล็ก
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อทำงานให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในคำแนะนำในการใช้งานอย่างเคร่งครัด สำหรับสีที่เข้มข้นและสดใส ให้ทาอีกชั้นหนึ่งหลังจากที่สีแรกแห้งแล้ว สำหรับการตกแต่งเพิ่มเติม ทาสีแต่ละขั้นบนเปลด้วยสีที่ต่างกัน
ขั้นตอนที่ 7
เปลสามารถตกแต่งด้วยผ้าเช็ดปากเดคูพาจ ติดการออกแบบที่สนุกสนานที่ด้านนอกของพนักพิงและคลุมด้วยน้ำยาเคลือบเงาสูตรน้ำที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 8
หากคุณมีโอกาสและทักษะ คุณสามารถลองเผาเครื่องประดับบนเตียงด้วยอุปกรณ์พิเศษ เลือกภาพวาดที่เรียบง่าย คมชัด และชัดเจน คุณสามารถเขียนคำอวยพรหรือเพลงกล่อมเด็กด้วยแบบอักษรที่มีสไตล์และน่าสนใจ
ขั้นตอนที่ 9
ทารกใช้เวลาส่วนใหญ่ในเปล และการศึกษาโลกภายนอกเริ่มต้นด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ ดังนั้นให้ฟื้นฟูสิ่งนั้นด้วยความรักและความอ่อนโยนอย่างระมัดระวังและรอบคอบ